Pages: [1]   Go Down
Print
Author Topic: สมาชิกใหม่ครับ อยากถามเรื่อง ENC28J60 กับ PIC ครับ  (Read 17056 times)
0 Members and 6 Guests are viewing this topic.
parchaya1
มาใหม่
*
Offline Offline

Posts: 5


« on: March 01, 2013, 03:17:58 AM »

คือ ผมกำลังทำโปรเจคครับ ซึ่งต้องใช้ตัว ENC28J60 ร่วมกับ PIC ครับ ซึ่งด้วยความที่ผมเป็นมือใหม่หัดขับมากๆ คือ หัดกับ mcs มาครับ แล้วอาจารย์ให้เปลื่ยนเป็น PIC ครับ

ขอบเขตคือ "ระบบควบคุมการเข้าออกอาคารผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต" ครับ

1. ผมเอา การ์ด มาแท็กที่ RFID เพื่อให้ RFID รับข้อมูลในบัตร (RFID Reader LF 125KHz อ่านบัตรทันทีที่แตะบัตร)

2. เมื่อ RFID รับค่าในบัตรได้แล้วจะส่งรหัสในบัตรที่ได้ไปให้ Ethernet Module (ENC28J60) เพื่อส่งต่อไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์เซิฟเวอร์ต่อไป (โปรแกรมส่วน MCU)

3. เมื่อ คอมพิวเตอร์เซิฟเวอร์ ได้รับรหัสจากโมดูลแล้ว ก็จะนำรหัสนั้น มาตรวจสอบว่ามีในฐานข้อมูลหรือไม่ แล้วจะส่งคำสั่งกลับออกมาให้ โมดูล พร้อมทั้ง เก็บข้อมูลใหม่ ไว้ (โปรแกรมส่วน VB)

4. เมื่อ โมดูลได้รับคำสั่งก็จะส่งค่าที่ได้ต่อไปให้ MCU

5. MCU ก็จะนำค่าที่ได้มาเปรียบเทียบว่าคำสั่งนั้นคือ "อนุญาติ" หรือ "ไม่อนุญาติ"  (โปรแกรมส่วน MCU)

6. ถ้า อนุญาติ MCU จะสั่งให้ ประตูล๊อคแถบแม่เหล็กทำงาน โดยจะปลดล็อกให้ ผมเข้าอาคารนี้ได้ พร้อมทั้งโชว์ ข้อมูลผู้ใช้ เวลา วันที่ ที่เข้าอาคาร

7. ถ้า ไม่อนุญาติ จะโชว์ข้อความ ประมาณว่า ไม่มีรายชื่อในฐานข้อมูล

ขอโทษที่ยาวไปหน่อยนะครับ แต่เพื่อความละเอียดและเพื่อให้เข้าใจง่าย

ปัญหาคือแบบนี้ครับ

1. เนื่องจากผมเป็นมือใหม่ เรื่อง MCU จริงๆ MCS ที่เคยจับมาก็ต้องใช้เวลาพอสมควรอยุ่แล้ว ยิ่งต้องเปลื่ยนมาใช้ PIC ยิ่งช้าไปใหญ่ เพราะไม่รู้รายละเอียดเช่น
   
    1.1 พี่ๆแนะนำให้ใช้โปรแกรมเขียนอะไร ดีครับ ผมเห็นมี ทั้ง MikroC , MPLAP บลาๆๆ
    1.2 เบอร์อะไรดีครับ มันเยอะเหลือเกิน T_T" (ที่เจอบ่อยๆก้อ 16F877, ET-PIC24WEB(ที่ช็อปมีอยุ่ครับ มี โมดูลให้ด้วย) )

2. ตัวโมดูล  ENC28J60
   
    2.1 การทำงานฝั่ง MCU - โมดูล (ส่งข้อมูลแบบ SPI ที่ผมเข้าใจนะครับ)
    2.2 การทำงานฝั่ง โมดูล - คอมเซิฟเวอร์ (TCP/IP ที่เข้าใจเหมือนกันครับ)
    2.3 คำสั่งต่างๆเพื่อให้มันเข้าใจว่า จะสั่งมันทำอะไรน่ะครับ


ต้องขอขอบคุณพี่ๆล่วงหน้า และขอน้อมรับคำต่อว่าเลยครับ เพราะว่าตอนแรกงานส่วนตรงนี้ ผมไม่ได้ทำครับ เป็นส่วนของเพื่อนอีกคนนึงครับ แต่ตอนนี้เค้าไม่ได้ทำแล้วครับ

เลยต้องขอความเห็นใจพี่ๆ ชี้แนะเท่าที่พี่ๆพอจะกรุณาได้ครับ

ปล. ผมลองหาโค้ดในเน็ตดู เจออันนี้ครับ ของ MikroC ครับ (กำลังศึกษาอยุ่ครับ)

http://www.micro-examples.com/public/microex-navig/doc/090-enc28j60-library.html

ลองอ่านในนี้แล้วด้วยครับ ก้อยัง งง ครับ เพราะผมมือใหม่ครับ T_T

http://www.thaimicrotron.com/webboard2/index.php/topic,877.0.html

ขอโทษที่ถามน่าเกลียดนะครับ เพราะการถามงานวิศวะแบบนี้ ผมเข้าใจครับ ว่าต้องมีความรู้อยุ่บ้าง แต่งานนี้มันกระทันหันจริงๆครับ ส่วนอื่นพอรู้ว่าตัวเองทำได้บ้าง แต่ตัวโมดูลนี้ ไม่ค่อยเก็ทครับ

ผมขอบคุณพี่ๆจากใจจริงครับ ขอความกรุณาด้วยนะครับ










Logged
course-mcu
มาใหม่
*
Offline Offline

Posts: 2


Email
« Reply #1 on: March 03, 2013, 07:45:53 AM »

รับปรึกษานะครับ
www.course-mcu.com
 หรือโทรติดต่อ  081-362-6915
email   info@course-mcu.com
Logged
gundam
Global Moderator
Hero Member
*****
Offline Offline

Posts: 292



« Reply #2 on: March 04, 2013, 06:44:43 AM »

เขียนมาละเอียดดีครับ แต่โพสมาวันศุกร์ ต้องรอพี่ๆเค้าหน่อยครับ

Logged
MicroX
Global Moderator
Full Member
*****
Offline Offline

Posts: 103


Senior


Email
« Reply #3 on: March 05, 2013, 12:47:23 AM »

ดีครับให้ข้อมูลมาเยอะดี ผมเห็นกระทู้คุณแล้ว แต่ยังคิดอยู่ว่าจะตอบแบบไหนดี อยากลองเปลี่ยนมุมมอง
ให้ลองพิจารณาแนวทางดูแล้วกัน ว่าอันไหนสะดวกคุณที่สุดทั้งราคา, เวลาที่ใช้พัฒนา และปริมาณของงาน


แบบที่ 1 แบบที่คุณเขียนอธิบายมา



ส่วนของไมโคร
- ติดต่อ RFID แบบ SPI หรือ UART
- ส่วนที่ติดต่อผ่าน TCP/IP ใช้ ENC28J60
- ส่วนควบคุบ Output เช่นกลอนไฟฟ้า

ส่วนของ PC
- ส่วนของ Application ที่ติดต่อผ่าน socket เช่น VB ,C++ builder,Delphi
เขียนอ่านข้อมูลลงไฟล์ หรือ database เช่น Access
- ทำเป็น Web Server (Content Management System) โดยลง CMS ที่ PC ใช้ PHP รับRequest
เขียนอ่านข้อมูลลง database เช่น MySQL
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------

แบบที่ 2 ผ่าน TCP/IP เช่นกัน แต่ใช้ตัวช่วย โมดูลที่แปลง TCP/IP เป็น RS232 ทำให้ลดการพัฒนาบน ENC28J60
โดยไมโครจะมองเป็น RS232 แทน




ส่วนของไมโคร
- ติดต่อ RFID แบบ SPI หรือ UART
- เพื่อติดต่อผ่าน RS232 (UART+MAX232)
- ส่วนควบคุบ Output เช่นกลอนไฟฟ้า

ส่วนของ PC
- ส่วนของ Application ที่ติดต่อผ่าน RS232 เช่น VB ,C++ builder,Delphi
เขียนอ่านข้อมูลลงไฟล์ หรือ database เช่น Access

ตัวอย่างผู้ขาย EM100
http://www.silaresearch.com/accessory.php
---------------------------------------------------------------------------------

แบบที่ 3 ใช้ RS422 ติดต่อ Server



ส่วนของไมโคร
- ติดต่อ RFID แบบ SPI หรือ UART
- เพื่อติดต่อผ่าน RS422 (UART+MAX485 สองชุด)
- ส่วนควบคุบ Output เช่นกลอนไฟฟ้า

ส่วนของ PC
- ส่วนของ Application ที่ติดต่อผ่าน RS232 เช่น VB ,C++ builder,Delphi
เขียนอ่านข้อมูลลงไฟล์ หรือ database เช่น Access

ตัวอย่างผู้ขาย RS422/485
http://www.etteam.com/product/12A31.html

---------------------------------------------------------------------------------------
แบบที่ 4 External eeprom



ส่วนของไมโคร
- ติดต่อ RFID แบบ SPI หรือ UART
- ส่วนติดต่อกับ External eeprom แบบ I2C ออกแบบขนาด Record เองตามขนาดข้อมูล
(- เพื่อติดต่อผ่าน RS232 (UART+MAX232) กรณีต้องการอ่านข้อมูล ใน eeprom)
- ส่วนควบคุบ Output เช่นกลอนไฟฟ้า
---------------------------------------------------------------------------------------

แบบที่ 1-3 เหมาะสำหรับการเก็บข้อมูลบันทึกการเข้า-ออก เพื่อนำมาวิเคราะห์ฐานข้อมูล หากไม่มีโปรแกรมวิเคราะห์ฐานข้อมูล  ข้อมูลเหล่านั้นก็ไม่มีประโยชน์
แบบที่ 4 เหมาะสำหรับทำงาน แบบ stand alone (สามารถโหลดข้อมูลได้ ผ่าน RS232)

ส่วนคอมไพเลอร์ ใช้ตัวไหนก็ได้ที่คุณถนัด


« Last Edit: March 05, 2013, 06:27:29 AM by MicroX » Logged
parchaya1
มาใหม่
*
Offline Offline

Posts: 5


« Reply #4 on: March 07, 2013, 12:36:49 AM »

สนใจแบบที่ 2 มากครับ กำลังอ่านคู่มือในเน็ตอยุ่ครับ แต่สงสัยอยุ่บ้างครับ เลยถามพี่ๆก่อนเพราะ พี่ๆอาจเคยลองใช้มาแล้วครับ

1. ถ้าต้องต่อเจ้า EM 100 ทั้งสองฝั่งแล้ว ฝั่งทาง PC ที่ต่อ สายแลนผ่าน rs-232 ยังจะใช้อินเตอร์เน็ตอยุ่ได้ไหมครับ เพราะจากแบบเดิม(แบบที่ 1) คือ ส่งข้อมูลทางสายแลนปกติโดยไม่ต้องผ่านอุปกรณ์ตัวอื่นครับ

2. เวลา MCU ส่งข้อมูลให้ฝั่ง PC คือ ส่งข้อมูลเป็น rs232 - TCP/IP - rs232 ตามรูปใช่ไหมครับ

3. ทาง PC จะส่งกลับมาเป็น rs232 - TCP/IP - rs232 ใช่ไหมครับ (ยืนยันความเข้าใจครับ)

สุดท้ายพี่ๆ พอจะมีโค้ดตัวอย่างสาธิตหรือการสอนการใช้งานบ้างไหมครับ เอาเว็บมาแปะก็ได้ครับ

คือถ้าลดการเขียนโปรแกรมเจ้าตัว ENC28J60 ได้จริงๆ โปรเจคผมจะร่นระยะเวลาไปได้เยอะเลยครับ ยิ่งถ้าเขียนส่งข้อมูลไปมาระหว่าง MCS - PC เป็น rs-232 ได้นี่ยิ่งดีใหญ่เลยครับ

ขอบคุณพี่ๆมากนะครับ ตอนแรกผมก็คิดว่าพี่ๆคงไม่มาตอบกันแล้ว ใจเสียเลยครับ แต่พอเห็นพี่ๆตอบกลับละเอียดขนาดนี้ผมชื่นใจเว็บนี้มากครับ


 

Logged
MicroX
Global Moderator
Full Member
*****
Offline Offline

Posts: 103


Senior


Email
« Reply #5 on: March 07, 2013, 04:50:19 AM »

ตอบข้อ 1
- การที่ MCU ติดต่อกับ PC เพื่อส่งข้อมูลไปถาม PC ผ่านสาย LAN เท่านั้น ว่า ID นั้น Verify หรือเปล่า
เพราะ PC เป็นที่เก็บข้อมูล ส่วนจะใช้อินเตอร์เน็ตได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับทาง PC ต่ออยู่กับ Router หรือเล่า

NOTE:
- สาย LAN มีความยาวได้ 20 M เกินกว่านั้นระดับสัญญาณจะ drop
- จะต้องเปิด PC ไว้ตลอดเวลา
ผมยังไม่เคยใช้ EM100 เพียงแต่ทราบหลักการทำงานของมันเท่านั้น
หากต้องการข้อมูลเพิ่ม ให้ปรึกษาผู้ขายอีกที
ตอบข้อ 2
- เสมือน MCU คุยกับ PC ต่อกันแบบ RS232 โดยใช้สาย LAN

ตอบข้อ 3
- คำตอบเหมือนกับข้อ2 คุณตัดคำว่า TCP/IP ออกไป เพราะ Interface ทำน่าที่นั้นไปแล้ว
มันจะเป็น MCU <-RS232 -> PC
-------------------------------------------------------------------------------------
1 - ก่อนที่จะทำโปรเจคคุณต้องรู้ ขอบเขต และขั้นตอนการทำงานของมันก่อน
2 - จากนั้นก็เลือกศึกษาข้อมูล device แต่ละตัว
3 - วาดแผนภาพโครงงาน ถึงความเป็นไปได้ ทุกแบบที่คุณคิดได้
4 - เลือกรูปแบบที่คิดว่าถูกต้อง ตรงกับงานที่สุด  (อาจจะต้องพิจารณาเรื่องราคาด้วย)
5-  คิดถึงความรู้ที่จะได้ ยากง่ายไม่สำคัญ จะเก็บไว้เป็นต้นทุนในอนาคต (อุดมกาณ์ ยืดยุ่นได้ ขึ้นอยู่กับเวลา และค่าใช้จ่าย)


-จากหัวข้อ "ระบบควบคุมการเข้าออกอาคารผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต"

คำถามสำหรับการกำหนดขอบเขตของงานของหัวข้อนี้
- คุณจะเข้าห้อง คุณยืนอยู่หน้าห้อง ต้องผ่าน Internet เชียวหรือครับ
- คำว่าผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต หมายถึงคุณจะควบคุมการเปิด/ปิด ผ่านหน้าจอคอมฯ ด้วยหรือเปล่า
*** - แล้วอะไรบ้าง...ที่เป็นเหตุผลที่ต้องใช้ Internet

***- ระยังทางระหว่าง MCU+RFID ห่างจาก PC เท่าไร ถ้าไม่เกิน 10 m ใช้ RS232 ดีกว่าไหม
- ไกลกว่านั้นก็ใช้ RS422/485 ได้เป็น 50-60m ที่ baudrate 9600
ผมไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องผ่าน LAN เพราะมันแค่ถาม-ตอบกันเฉยๆ

รู้จัก device ที่นำมาใช้
- จากหัวข้อไม่มีคำว่า RFID แสดงว่าใช้วิธีอื่นได้อีกใช่ไหม หรือถูกบังคับให้ใช้ RFID
- RFID แบบ UART ก็มีขายราคาพอๆ กันกับแบบ SPI (จะเอาแบบ SPI มาทำไมให้ปวดหัว)
www.arduino.in.th
http://www.thaieasyelec.com



***- RFID ส่งข้อมมูล 13 หลัก คุณกะว่าจะใช้บริมาณบัตรกี่ใบ เก็บอะไรบ้าง เช่นต้อง+เวลาเข้าออกด้วยไหม
- ไม่เกิน 100 บัตร เก็บไว้ใน EEProm ภายนอกก็พอ หรือเก็บลง SD card อันนี้ยากขึ้นมาอีก
-  เกิน 100 ใบ เอาไปเก็บไว้ในคอมฯ ถือว่าสมเหตุผล

*** คือส่วนที่ถามกลับของผมครับ
ค่อยๆ ทำความเข้าใจไปนะครับ
ป.ล. แล้ว อ.ที่ปรึกษาคุณไปไหนทำไมปล่อยให้นักศึกษาคิดเอง หาข้อมูลเองละครับ


« Last Edit: March 07, 2013, 04:56:41 AM by MicroX » Logged
parchaya1
มาใหม่
*
Offline Offline

Posts: 5


« Reply #6 on: March 07, 2013, 06:59:04 PM »

ตอบคำถามครับ

1.เหตุผลที่ต้องใช้ Internet
       1.1 คุณจะเข้าห้อง คุณยืนอยู่หน้าห้อง ต้องผ่าน Internet เชียวหรือครับ
             - อาจารย์ให้โจทย์มาว่า เครื่อง server ต้องอยุ่ที่ไหนก็ได้ครับ ไม่จำเป็นต้องอยุ่ใกล้ เพื่อศึกษาการติดต่อผ่านอืนเตอร์เน็ทอะครับ  ตัว MCU+RFID เลยต้องใช้ internet เพื่อรับ-ส่งข้อมูลให้ server ครับ (Server ต่ออยู่กับ Router ครับ)

       1.2 คำว่าผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต หมายถึงคุณจะควบคุมการเปิด/ปิด ผ่านหน้าจอคอมฯ ด้วยหรือเปล่า
             - ไม่ได้ควบคุมการเปิด/ปิดผ่านจอคอมครับ แต่สามารถเช็คประวัติการใช้งาน จาก Server โดย VB ซึ่งอยุ่ในคอมของผู้ตรวจสอบได้ครับ

        ทั้งหมดข้างบน จึงใช้คำว่า ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ครับพี่
 
2. เรื่อง RFID
       2.1  RFID ส่งข้อมมูล 13 หลัก คุณกะว่าจะใช้บริมาณบัตรกี่ใบ เก็บอะไรบ้าง เช่นต้อง +เวลาเข้าออกด้วยไหม
             - ต้องเก็บได้เรื่อยๆครับ เพราะเอาไปติดในอาคารครับ ซึ่งอาจารย์ที่ปรึกษาบอกว่า อาจจะเอาไปใช้จริงครับ
             - เก็บรายชื่อ+เวลาเข้าออกด้วยครับ

       2.2  จากหัวข้อไม่มีคำว่า RFID แสดงว่าใช้วิธีอื่นได้อีกใช่ไหม หรือถูกบังคับให้ใช้ RFID
             - เลือกเป็น RFID เองครับ เพราะจะได้เอาเลขในบัตรไปใส่ไว้ในฐานข้อมูลเพื่อตรวจสอบการใช้งาน และเป็นอุปกรณ์ที่ไม่ต้องเสียดสีกัน เลยทำให้อายุการใช้งานของเครื่องและบัตรนานขึ้นครับ

       2.3  RFID แบบ UART ก็มีขายราคาพอๆ กันกับแบบ SPI (จะเอาแบบ SPI มาทำไมให้ปวดหัว)
             - RFID ใช้แบบ UART ครับ


ในส่วน Ethernet Module  อย่างเดิม (ENC 28J60) คือ

       1. มันติดต่อกับ MCU แบบ SPI ครับ (คือตรงนี้เป็นความกากของผมเองครับ  T_T)
       2. มันส่งข้อมูลให้ Server เป็นแบบ TCP/IP (เพื่อนผมก็ไม่เก่ง VB เหมือนกันครับ เพิ่งหัดครับ)

แต่ถ้าเป็นแบบที่พี่บอก เจ้าตัว EM100  (MCU <-RS232 -> PC) งานคงจะทำได้ไวมากขึ้นครับเพราะ
       1. MCU - EM100 (rs-232)
       2. Server - EM100 (rs-232)

เรื่อง อาจารย์ที่ปรึกษาไปไหน คือ
 - อาจารย์ที่ปรึกษาไม่ค่อยทราบเรื่อง Ethernet Module เหมือนกันครับ ท่านจะแนะนำเรื่อง Server ได้ดีกว่าครับ
 - ผมกลัวอาจารย์ว่า ถ้าเข้าไปถามแบบนับ 1 แบบในเว็บนี้ครับ แฮะๆ เลยขอมานับ 1 เองก่อนเข้าไปขอคำปรึกษาครับผม

ขอบคุณพี่อีกครั้งครับ ที่ให้ความรู้ผมนะครับ ผมก็ผิดเองด้วยครับ ที่เวลาเรียนไม่ค่อยตั้งใจ เลยต้องลำบากตอนทำโปรเจค ขอโทษพี่ที่รบกวนด้วยนะครับ
 



Logged
MicroX
Global Moderator
Full Member
*****
Offline Offline

Posts: 103


Senior


Email
« Reply #7 on: March 08, 2013, 12:59:21 AM »

คุณก็พอสรุปได้แล้วนะครับ

เรื่อง EM100 แบบที่2 ลองปรึกษาผู้ขายดูอีกที เพราะผมเก็นแต่ spec  ราคามันสูงไปหน่อยตัวเกือบ 3,000 และมันยังต้องใช้สาย LAN ซึงถูก limit ที่ระยะทาง
MCU UART [MAX232]<---> RS232------[Interface]------ RS232 <---> PC

ผมชอบแบบ RS422 แบบที่3 มากกว่า เพราะมันก็จะมองเหมือนกัน ต่อด้วยสายโทรศัพท์ได้เป็น 100 m

MCU UART [MAX485x2]<--->[Interface]------ RS232 <---> PC

ด้าน MCU ก็ใช้ MAX485 2 ตัว  ทางด้าน PC  ก็ใช้ ตัวแปรง 422/485-->RS232
หรือจะลองทำเองดู
http://www.thaimicrotron.com/Project/RS232-422V2/RS232-422V2.htm

การที่คุณทำการบ้านหาข้อมูลก่อน ค่อยไปคุณกับอาจารย์ที่ปรึกษา อันนี้น่าชื่นชมครับ
เพราะคุณสามารถชี้แจ้งเหตุผล และเตรียมข้อมูลให้อาจารย์ทราบ ท่านจะได้ไม่หนื่อยมาก

« Last Edit: March 08, 2013, 01:39:56 AM by MicroX » Logged
parchaya1
มาใหม่
*
Offline Offline

Posts: 5


« Reply #8 on: March 08, 2013, 01:48:49 AM »

ขอบคุณพี่มากครับ เดี๋ยวตอนกลางวันจะโทรไปสอบถามเรื่องเจ้า EM100 ก่อนครับ ตัวละ 3000 ถ้าคุณสมบัติตรงตามที่ผมต้องการ ผมก็ยอมจ่ายละครับ

ได้เรื่องเจ้า EM100 ยังไงจะมาโพสเรื่อยๆนะครับ
Logged
parchaya1
มาใหม่
*
Offline Offline

Posts: 5


« Reply #9 on: March 13, 2013, 01:35:24 AM »

ขอโทษหายไปหลายวันครับ เพิ่งกลับมาจากซื้ออุปกรณ์ทำงานครับ

ความคืบหน้า ตอนนี้อาจารย์ช่วยบ้างแล้วครับ โดยให้เจ้าโมดูล Ethernet เป็น แบบ rs232-TCP/IP มาให้ลองใช้ก่อนครับ

ยี่ห้อ Design Gateway รุ่น Ethernet - 232 กล่องสีดำใสครับ

ได้ความยังไงจะมาโพสเรื่อยๆครับ ^^
Logged
gundam
Global Moderator
Hero Member
*****
Offline Offline

Posts: 292



« Reply #10 on: March 13, 2013, 08:03:08 AM »

เอาใจช่วยครับ การเลือกใช้ และผลการใช้งานแต่ละโมดูลเป็นอย่างไร
โพสบอกไว้บ้างก็ดีครับ เพื่อเป็นตัวเลือกให้รุ่นหลังๆ ครับ
Logged
Hanajiji
Jr. Member
**
Offline Offline

Posts: 19


Email
« Reply #11 on: March 24, 2013, 04:30:35 AM »

เอ่อ ขอขัดจังหวะ "ระบบควบคุมการเข้าออกอาคารผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต"
ดูตามขอบเขตแล้ว ผมว่า ที่เสนอมามันไม่ใช่อะครับ (ถ้าไม่ถูกขออภัยอย่างสูง)

ในความคิดผมคือ เครื่องเซอร์เวอร์ ตั้งอยู่ที่ใดก็ได้ ต่างจังหวัดก็ได้
แล้วเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไว้ แค่นั้นพอ ไม่ต้องมีสายมาต่อ

ส่วนเครื่องอ่านบัตร มีหน้าที่ส่งข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ตมาที่เครื่องเซอร์เวอร์นี้
ถ้าเป็นพวกการแปลงสาย คอมก็ย้ายที่ไม่ได้ ต้องตั้งในอาคาร ที่ระยะสายไม่เกิน

ความสามารถ มันต่างกันนะครับ ยกตัวอย่าง มีอาคารอยู่สิบอาคารแต่อยากใช้ เซอร์เวอร์เครื่องเดียวเป็นต้น
ผมว่ามันไม่ตรงขอบเขต

หรือ

ถ้าไม่เอาตามขอบเขตแล้วอยากใช้สาย คือคอมต้องตั้งอยู่ใกล้ๆ (หรือในอาคารเดียวกัน) กับเครื่องอ่านเท่านั้น
ผมแนะนำใช้ไร้สายไปเลย trw2.4G ไม่ก็ ง่ายขึ้นมาหน่อยก็ xbee  ง่ายกว่าไม่ต้องเดินสาย ระยะทางไกลกว่า ราคาถูกกว่าหัวแปลง
Ethernet - 232 ของศิลา (ราวๆ 1000 บาท)แล่วก็เปลี่ยนชื่อ เป็น
"ระบบควบคุมการเข้าออกอาคารผ่านเครือข่ายไร้สาย"

ผิดถูกขออภัย
ถ้าสงสัยโทรมาถามได้ครับ 085-363-1730



« Last Edit: March 24, 2013, 04:36:36 AM by Hanajiji » Logged
gap
มาใหม่
*
Offline Offline

Posts: 1


Email
« Reply #12 on: July 30, 2013, 04:34:03 PM »

chip งานแบบนี้แนะนำ 18F67J90 family เพราะว่าเป็น chip เดียวประกอบง่าย
ติดต่อกับ sever ผ่าน rs232 ได้โดยใช้ max232 ตัวเดียว
ที่เห็นปัญหาคือ ตรง card reader ต้องมี chip. 1 ตัวและปลายทางที่ server อีก 1 ตัว
chip ทั้งสองเชื่อมต่อ wi.fi ก็ได้ set แบบ wds ตึกชั้น 1 ตัว ลดการเดินสาย LAN
การติดต่อระหว่าง chip ทั้งสองที่กล่าวไปเคยทำมาแล้ว OK.

ต่อไป chip ตัวท้ายต้อง set ใช้ RS232 ที่ server...
////////////////  ต่อ

ดูรูปภาพที่ทำไว้ที่
http://123.242.186.88/gap/image3.jpg
http://123.242.186.88/gap/image4.png
http://123.242.186.88/gap/image5.png
http://123.242.186.88/gap/image6.png

ด้าน rs232 เคยใช้ gambas2 ติดต่อกับฐานข้อมูล MySQL มาหลายปีแล้วตอนนั้นทำ sensor วัดความชื้นแล้ว record
gen. เป็นกราฟ ผล.ก็ OK ตอนนั้นใช้ microchip pic16 อยู่

คงมีไม่กี่ท่านที่รู้จัก Gambas คือ visaul basic ในรูปแบบLinux ต้องพัฒนาตรงนี้เป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง
/////   ภาพรวม
1. ต้นทางติดตั้ง microchip ให้สื่อสารกับ card reader(น่าจะเปลี่ยนเป็น touch screen จะทันสมัยกว่า) อีกด้านหนึ่ง interface กับ Ethernet->wi-fi (set wi-fi to WDS.) หรือ เครือข่าย ethernet ใดๆ
2. อีกฝั่งหนึ่งที่ interface.ETH ต่อกับ wi-fi อีกด้านหนึ่ง interface กับ MAX232 โดย function UART ที่มีอยู๋ใน compiler ส่วนมาก, ปลาย RS232(DB9) ต่อกับ server (ฝั่ง server)
3. เขียน Gambas ให้ event กับ rs232 แล้ว query เปรียบเทียบ ถ้าเท่ากันให้ pointer(สร้างใน microchip นะครับ) เป็น 1 แล้วส่งกลับไปที่ต้นทาง(เหตุการณ์นี้เรียกว่า call back)
4. ค่า pointer(และอาจจะมี handling อื่นๆไม่เกิน 100 bytesเอาไปสร้างการโต้ตอบแปลกๆ) เอาไปตอบสนองกับ machanic ประตู หรือ อื่นๆ
ก็จะเห็นว่า สามารถใช้งาน client ได้หลายเครื่องพร้อมกัน, ถ้าเป็นเครือข่ายอินเตอร์เนทก็ได้ทั่วโลกโดยใช้ base เดียว

ที่เขียนมาดูไม่ยากแต่ต้องใช้ความพยายามมากในแต่ละขั้นตอน, ถ้ามี model อยู่ในใจแล้วก็ต้องทดสอบดูแต่ละขั้นตอน, แล้วประกอบกัน
น่าจะสนุกได้สักพัก....ขอให้กำลังใจนะครับ
« Last Edit: July 31, 2013, 03:51:12 PM by gap » Logged
x-robot
Jr. Member
**
Offline Offline

Posts: 18


Email
« Reply #13 on: July 30, 2013, 06:34:10 PM »

ขอบคุณครับ ช่วยชี้แนะด้วย
Logged
Pages: [1]   Go Up
Print
 
Jump to: